ไม้หัวซีน 2 วันที่ 14 กระบองไล่แมลงวัน

6:58am ‘ในฐานะน้องรัก ผมช่วยพี่ทองอย่างเดียว คือ… ฟั่บ! เฟี้ยวววว!’ ชายใหญ่กำลังออกท่วงท่า ใช้กระบองหัวของเค้า ปัดแมลงวัน ออกจากบริเวณโต๊ะหินอ่อน ที่ตั้งอยู่ใกล้กับแคชเชียร์ ที่ร้านกาแฟปากามาร่า กับเช้านี้ ที่สภาพแวดล้อมไม่ค่อยเป็นใจให้ผมเท่าไหร่

‘แง ขอบคุณนะครับใหญ่ พี่เหนื่อยมากเมื่อคืน หลังจากที่เราอ่านหนังสือกัน ก็เลยต้องนอนเลย ทำไงได้ มันเริ่มกลับมาเรียนญี่ปุ่นแล้วช่วงนี้ ไหนจะภาระทางใจ เพราะตอนนี้ ที่บ้านมีทั้งปัญหา แล้วก็อีกเรื่องคือ ระบายสี คอมิคเจอนัล หลังจากไปทำพิธีโกนผมไฟ (แบบ แคชวลๆ) ที่บ้านพี่ชายมาวันก่อน ระบายสีงานวาดนั้นจนพลังหายหมดรีบนอน เลยยังไม่ได้ทำงานซีนตัวเอง แล้วก็การบ้านญี่ปุ่น’ ผมพูดจบ หันไปมอง กะจะรอให้มีเสียงแห่งสวรรค์ ได้ตอบกลับมาให้กำลังใจตัวเองประมาณว่า ‘ผมเข้าใจครับ’ อะไรแบบนั้น แต่หลังจากที่เห็นสีหน้าอันเคร่งเครียด ตามสไตล์น้องชายคนโตสุดของบ้านไม้หัวแล้ว ผมก็สำเหนียกได้ว่า แค่การที่ไม้หัว ได้แวะมาหาผม ผลัดกันวันละคนๆ แบบนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมทำงานซีนให้จบทีละเล่ม (เสียที) ผมก็รู้ว่า ผมควรจะปิดหู แล้วฟังเสียงเพลงจากร้านกาแฟ เป็นการปลอบจิตใจอันว้าวุ่น ก็คงจะเพียงพอแล้ว

‘อ่ะ ได้ๆ พี่จะใจเย็น ทำไปทีละอย่าง เล่นไปทีละคอร์ด เหมือนที่เราแสดงคอนเสิร์ตกับแฝดเขบ็ต เวลางานปีใหม่แล้วกันนะครับ’ ผมบอกน้องชาย พยายามพูดถึงเรื่องราวของคนอื่นบ้าง เอาใจออกจากตัวเองสักครู่

‘งั้น พี่ก็ขอมาเขียนบล็อกก่อนเสียหน่อย เพื่อเล่าว่าเมื่อวานเราได้อ่านอะไรกัน แล้วค่อยทำการบ้านญี่ปุ่น ทำซีนกัน ก็ เราก็อ่าน Roald Dahl กันไปใช่ม้า แต่ว่าไม่ได้อ่านนิยายเค้านะ อ่านเรื่องเบื้องหลัง หนังสือ biography แหล่ะ เอาจริง มีหลายๆเรื่องที่ค่อนข้างดาร์ก คือหนังสือเล่มนี้เขียนโดย Donald Sturrock จริงๆ ที่หยิบเล่มนี้มา เพราะก็เรื่องการรวบรวมซีนเนี่ยแหล่ะ ที่ไปอ่านเจอว่า ชายเล็กเคยสนใจเล่มนี้ด้วย ช่วงที่พี่เขียนเกี่ยวกับการอ่านหนังสือทลายกองดอง พี่เลยอยากหยิบเล่มนี้กลับมาอ่าน เพราะว่า อยากจะเข้าใจวิธีคิด การใช้ชีวิตของศิลปิน นักเขียน ที่พี่ชอบ (ทำไมขึ้นนำว่า ศิลปิน นะ ทั้งๆที่ตัวเองอยากจะให้ตัวเองเป็นนักเขียนมากกว่า พี่ไม่ชอบคำว่าศิลปินแล้วอ่ะ มันทำให้ตัวเองติดกับ กับ ‘ภาพลักษณ์’ ที่ทำให้ตัวเองหลุดจากความสำคัญของงาน พี่ไม่อยากเป็นคนติดภาพ พี่อยากเป็นคนติดเรื่องราวมากกว่า สิ่งที่พี่อยากจะให้ความสำคัญ เพราะเชื่อว่าเรื่องราวนี่แหล่ะ ที่อยู่เบื้องหลัง ที่เป็นแก่นของความจริงแท้ อะไรที่ ไม่โอนอ่อนให้กับเสียงกระแสของสังคมและความคิดเห็นของคนอื่น อะไรที่จะเป็นเพื่อนแท้ให้เรา ถึงแม้จะไม่มีใครแล) เอาล่ะ ไปต่อ พูดเรื่องอะไรกันแล้วนะ’ ผมเว้นจังหวะ จิบกาแฟเย็นสักครู่ แล้วก็เห็นว่าตอนนี้ ไม่มีแมลงวันบินแล้ว หรือว่าจะบินออกไปข้างนอก อาจจะไปสวนลุมแล้ว

‘ก็คือ มีการพูดเรื่องเพื่อนของดาห์ลตอนเด็กอ่ะ ที่เหมือนโดนไล่ออกจากโรงเรียน เหมือนจะมีเรื่องการกระทำที่ไม่ค่อยโอเคด้วย พี่ไม่ค่อยอยากคุยอยากเล่าอ่ะ ถ้าใครสนใจอาจจะต้องไปสืบกันต่อเอง ผมขอโทษด้วยนะ ผมคงไม่สามารถพูดได้ทุกเรื่องอ่ะ แต่เหมือนจะเป็นความทรงจำที่ดาห์ลอ้างอิงไปเขียนหนังสือเรื่อง Boy แหล่ะครับ ผมก็อยากลองหยิบมาอ่าน คือมัน Sensitive ด้วยแหล่ะ เรื่องราวชีวิตเค้าตอนนี้ ผมเองก็อยากจะอ่านให้แตกจริงๆ ก่อนจะเอามาเขียนมาเล่า ประมาณนั้นครับ อีกอย่าง หลังจากที่ตัวเองตกตะกอนทางศาสตร์แห่งการเล่าเรื่อง ก็คิดว่า เราไม่จำเป็นต้อง สามารถเล่าได้ทุกเรื่อง ยอมรับทุกย่อย่าง เรื่องราวมีเป็นล้านแปดพันเรื่อง เราเอาสิ่งที่เราสนใจ สิ่งที่เรากล้าเล่า มาเล่า ก็พอแล้ว (ทำไมเราดูได้ทั้ง Rilakkuma and Kaoru or Last of Us or White Lotus เป็นต้น ดังนั้น ไม่ต้องกดดันตัวเองมากไป)

เอาว่า อย่างนึงที่พี่อ่านแล้วก็ทำให้เกิดความสุขเล็กๆก็คงเป็นการเอ่ยถึงเครื่องเป่าอย่าง ฮาโมนิก้า หรือว่า mouth organ เนี่ยแหล่ะ ที่ทำให้ตัวเองโยงเรื่องราวไปหา ตูเว ยานซอน ผู้เขียนมูมิน ที่เค้าให้ตัวละครอย่าง Snufkin เป่าเครื่องดนตรีนี้ด้วย..อ๊ะ’ ไม่ทันที่ผมจะพูดจบ นั่นไง ชายใหญ่เริ่มบรรเลงแล้ว ใช่ครับ ชายใหญ่ก็เป่าเมาท์ออแกนด้วยล่ะ นี่เค้ากำลังเป่าเพลงที่ร่วมกันแต่งกับเซมิค หรือว่านักแต่งเพลงประจำคอนโดต้นไม้ใหญ่ยักษ์ครับ โอ๊ย ผมละกันอยากจะได้อ่านเรื่องราวของไม้หัว ที่คอนโดต้นไม้ใหญ่ยักษ์ต่อแล้ว พี่งอทได้เขียนต่อหรือยังเนี่ยยยย

เอาล่ะๆ เหมือนจะใกล้หมดเวลาแล้ว งั้นมาสรุปกันหน่อยดีกว่าครับ

‘เพราะมากครับชายใหญ่ ขอบคุณนะ ช่วยให้พี่ดึงสมาธิออกมาจากเสียงรถวิ่ง (ที่พาลทำให้ใจโมโหบ่อยๆ) กลับมาที่งานเขียน ก็เนี่ยแหล่ะ เอาว่า สิ่งที่ได้จากการอ่านครั้งนี้เหรอ (จำเป็นต้อง ได้บทเรียน เสมอเหรอนะ หนังสือเนี่ย) ก็คือว่าอะไรดีล่ะ ขอคิดสักนิดนะ (ไม่เห็นต้องพิมพ์แบบ freewriting ขนาดนั้น) อ้อ นึกออกแล้ว สองเรื่อง! เห็นมะ การให้ตัวเองหยุด ก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน เรื่องแรกก็ ที่ดาห์ลเหมือนจะมีความสนใจอื่นๆนอกจากเขียนด้วยนะ อย่างการที่เค้าเคยทำงาน Commercial Illustration แล้วเหมือนเค้าชอบถ่ายภาพด้วยนะ แล้วก็มีช่วงที่เค้าบอกว่า ใช้เงินจากพ่อเป็นทุนอยู่ช่วงนึง ที่ทำให้พี่เองก็เกิดโล่งใจ ลดความกดดันตัวเองลงไปบ้าง ว่าถ้าเรามีทุน เราก็เอามาใช้ทำประโยชน์ มันก็เท่านั้น แล้วก็อีกเรื่อง ชอบที่ดาห์ลเขียนจดหมายหาแม่เค้าตลอดเลยอ่ะ แล้วก็จดบันทึกตลอดเลยด้วย อ้อๆ อีกเรื่อง ชอบที่เค้าเขียนว่า แม่ดาห์ลเคยไปให้หมอดูทำนายด้วย 55 แล้วเค้าก็บอกว่า ดาห์ลจะได้เป็นนนักเขียนอ่ะ พี่นึกถึงพี่มัฟเลย แล้วก็ ชอบที่ดาห์ลเหมือนเคยทำงานกับบริษัททางน้ำมันหรือเปล่านะ มีคำว่า เค้าอยากออกไป adventure ตรงนี้ด้วย พี่ว่า การที่พี่หาเรื่องออกไปเรียนญี่ปุ่น ก็คงเป็นการหาทางผจญภัยในชีวิตที่ 単調な日々です。ด้วยแหล่ะ อะอ้าวววววว’ หันไปอีกที ชายใหญ่ก็หายไปแล้วครับ

คงต้องกลับไปพาสมาชิกโรงยิมตะแบกออกกำลังยามเช้าแล้วสินะ ขอบคุณจริงๆที่ยังสละเวลามาหากัน

แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ คืนนี้ก็เวียนกลับเป็นคิวชายเล็กแล้วสินะ อ่านอะไรดีน้าาา

7:17am

Next
Next

ไม้หัวซีน 2 วันที่ 13 日本語ニュース