สามสิ่งสำคัญในทุกขณะ (金曜日のブログ)
2:38pm ซึ่งในขณะนี้ที่ร้อนเป็นนรก ที่กรุงเทพฯ ถนนสาทร ผมก็กำลัง สวดบท สามสิ่งสำคัญ ให้ตัวเองอยู่ เพื่อบอกว่า ยังไม่ต้องไปอยากทำทุกอย่างบนโลก (ตายไปก็ทำไม่หมด) แค่คิดถึงว่ายน้ำ ย่อยขนมจีนน้ำเงี้ยวตอนห้าหกโมงก็อย่าเพิ่งเลย เรามาจดไว้ก่อนว่า สามสิ่งสำคัญ ตอนนี้ คืออะไร
พอดีวันนี้วันศุกร์น่ะครับ ท่านผู้อ่าน ซึ่งจะเป็นวันเดียวของอาทิตย์ (วันธรรมดาอ่ะนะ) ที่ผมไม่ได้มีเรียนภาษาญี่ปุ่น นั่นแปลว่าอะไร? ก็แปลว่า ิบหาย น่ะสิครับ เพราะอะไร เพราะมันคือสิ่งที่ปู่หรือตาจองปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เกือบจะได้สอน ว่า ไม่ใช่เพียงแค่ความยิ่งใหญ่เท่านั้นหรอกครับ ที่ต้องมาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบ ‘อิสระ’ ที่ยิ่งใหญ่ ที่ผมได้จากการไม่ได้มีงานประจำเนี่ยแหล่ะ ที่ทำให้ผม หัวแตก เมื่อต้องอยู่ในสภาวะ ไร้ตารางเรียน นั่นเอง
เอาว่า จะมาเขียนเป็นเสมือนล็อกไว้หน่อย สิ่งที่ทำสำเร็จวันนี้ก่อนเลยน่ะเหรอครับ
ออกไปซื้อกาแฟจากร้าน Sarnies เรียบร้อย เป็นกาแฟโปรดของผมและ คุณมารดา ไปเรียบร้อยแล้วครับตอนนี้ ป.ล. ถ้าคุณใส่สินค้าของเค้า (เช่น เสื้อยืด Coffee Please ที่ผมถอยมา) คุณจะได้ลดราคาไปเลย 15%!!!! ไปซื้อตั้งแต่เช้าครับ เลยฟินปากไปเรียบร้อย
หาทางปราบแมลงหวี่ต่อไป แม้จะกลัวบาปแค่ไหนก็ตาม ทำไงได้ คุณก่อความรำคาญให้ผมอ่ะ ผมทนไม่ไหวจริงๆ ต้องขออภัย แต่ก็ไปเอาเหมือนน้ำสมสายชูมาลองวางล่อครับ (พูดไม่ทันขาดคำก็มีแมลงบินผ่านหน้า ชะแว้บ)
ทำสมสวย คอมิคเจอนัลเรียบร้อย หลังจากที่ ผลัดมาหลายวัน (เลิกว่าตัวเองป่ะ ผลัดอะไร มันก็อยู่ที่จังหวะของจักรวาลบอกนั่นแหล่ะ ว่าตอนนี้เราควรทำอะไร A or B or C or พัก แค่นั้นจบ) เอาว่า ตอนแรกจะหยิบตัวละครหลัก 16 ตัว ตาม MBTI (นี่เฉลยเลยนะ) มาวนเวียนเล่า เอามาผสมกับญี่ปุ่นที่เรียนบ้าง เอามาเขียนซีน เพื่อทำความเข้าใจตัวละครในสถานการณ์ต่างๆบ้าง โดย ตอนแรกอยากเล่าเรื่องคุณพี่ยี่หร่า เพื่อนสาวหญิงใหญ่ (รุ่นพี่) แล้วก็บอนไซซัง (รักเก่าหญิงใหญ่ ที่เธอเชิดไม่สนใจไปนานแล้ว ใช่ป่ะจ๊ะ?) จนล่าสุดวันนี้ มันไม่ไหว เกิดการตกตะกอน ระหว่าง หยิบหนังสือนิตยสารญี่ปุ่นไปอ่านที่ร้านกาแฟ ว่าแบบ ทำไมเราจะต้องอ่านให้เข้าใจทั้งหมด มันต้องรอเมื่อไหร่ กว่าจะเข้าใจคำศัพท์ หรือว่าคันจิ ในภาษาญี่ปุ่น ดังนั้น ก็อ่านแบบ มั่วๆ ซัวๆ ไปเลย เดาๆ มันไปกับบริบทพวกนี้ จนสุดท้ายก็เลย คิดถึงสองคู่หูประจำห้องสมุด นักอ่านอย่างชายกลางแล้วก็สมสวย ก็มาลงที่วาดสมสวยก่อนเนี่ยแหล่ะครับ (ติดตามดูในไอจีได้ ถ้าผมไม่อินดี้แอบงานเพื่อจัดระเบียบงานเสียก่อน ไม่ใช่อะไรหรอกนะ)
อ่ะ ประมาณนี้ แล้วก็ออกไปพักกับไฟนรกกลางกรุงมา กินขนมจีนน้ำเงี้ยว อร่อยสุดๆ คุณพี่แม่ค้าน่ารักมาก แถมมะนาวให้อีกลูก กระดูหมูอีก แนะอีกว่าพริกชิ้นจะหอมกว่า ผักก็เทกระจาดไปเลยลูก กินเสร็จก็เดินมาถาม เป็นไงเผ็ดไหมคะ ‘อร่อยมากเลยครับ’ ผมก็รอจะตอบแต่คำนี้เนี่ยล่ะ
เอาว่าต่อจากนี้ กะจะทำอะไร
หยิบหนังสืออนิเมชั่น (แม้ว่าจะเข้าใจขีดจำกัดตัวเองมาพักใหญ่ วางมือจากอนิเมชั่นเต็มเรื่องมาพักนึงแล้ว แต่ ก็ยังมี intuition ที่บอกว่า ยังเก็บหลายๆเล่มไว้ได้ก่อน แล้วก็ เราก็สามารถทำแบบซีนสั้นๆได้อยู่) ก็เลยเอามาเปิด เป็นแรงบันดาลใจ สไตล์ คนสร้างสรรค์คุยกันอ่ะแก ก็ได้ป่ะ?
อยากอ่าน เล่มการอ่านจับใจความ ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า ดคไค 読解 (น่าจะนะ) คิดตั้งแต่หลังตื่นเลยแหล่ะ มันเป็นหลุม หรือว่าลูกบอลที่กำลังตกลงมาจากมุมสูง ตอนนี้ที่ผมจักกลิ้ง ลูกบอลหลายๆลูกของการเรียนญี่ปุ่น พอดีน่ะครับ (ความหมาย คันจิเฮสิคก็ได้อ่านไปแล้ววันก่อนโน่น เมื่อวานก็อ่านศัพท์จากเล่ม 2500 คำ แล้วก็กลับมาเรียนวาเซดะ กับแกรมม่าอีกตอนวันจันทร์ถึงพฤหัส ดังนั้นจะเหลืออะไรให้ได้สนุกล่ะ นอกจากการอ่านแบบเต็มกึ๋นแบบนี้)
แล้วก็ เฮสิค ต่อ ประมาณนี้ล่ะมั้ง
มันก็แค่แผนน่ะนะครับ ทำจริงก็ค่อยว่ากันอีกที เอาว่า เย็นนี้ต้องได้ว่ายน้ำแน่ๆ ชำระกายใจ สำนึกบาปต่อแมลงหวี่ ผมขอโทษ แต่ผมทนคุณไม่ไหวแล้ว